สธ. ร่วมมือ วิศวะ-จุฬา พัฒนา เครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ แม่นยำสูง

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมมือกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนา เครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ แม่นยำสูง ในวันนี้ (4 ส.ค.) – นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รมว. กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศถึงความร่วมมือระหว่างกระทรวงกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนา เครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ แม่นยำสูง

โดยประกาศดังกล่าวที่เผยแพร่บนช่องทางเพจเฟซบุ๊คส่วนตัวนั้น มีเนื้อความว่า

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชมการสาธิตเครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ พัฒนาโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และภาคเอกชน ช่วยดูดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แบ่งบรรจุลงเข็มฉีดยาได้แม่นยำ รวดเร็ว 4 ​นาทีทำได้ 12 เข็ม ทำให้มีวัคซีนเพิ่มขึ้น 20 % ลดภาระงาน เตรียมหารือนำมาใช้งานจริง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค

ร่วมรับชมการสาธิตต้นแบบเครื่องแบ่งและบรรจุวัคซีนด้วยระบบอัตโนมัติ (Automate Vaccine) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาร่วมกันโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และภาคเอกชน

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนชนิดบรรจุหลายโดส (Multiple Dose Vial) โดย 1 ขวดใช้สำหรับฉีด 10 โดส โดสละ 0.5 มิลลิลิตร แต่ผู้ผลิตบรรจุวัคซีนมาให้เกิน คือ บรรจุมา 6.5 มิลลิลิตร ที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝน มีทักษะสามารถดูดวัคซีนได้มากถึง 11-12 โดสต่อขวด โดยต้องใช้เข็มฉีดยาชนิดที่ลดปริมาณยาคงค้างในกระบอกฉีดยา (Low Dead Space Syringe)

ซึ่งทั่วโลกมีความต้องการใช้จำนวนมากทำให้เกิดความขาดแคลน ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จึงร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และภาคเอกชน พัฒนานวัตกรรมเครื่องแบ่งและบรรจุวัคซีนด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้การดูดวัคซีนและแบ่งบรรจุวัคซีนแต่ละโดสมีความแม่นยำตามที่กำหนด

นายอนุทินกล่าวต่อว่า การแบ่งบรรจุวัคซีนนั้น เจ้าหน้าที่จะเตรียมเข็มฉีดยาวางไว้บนแท่นจำนวน 12 หลอด จากนั้นนำขวดวัคซีนวางไว้ในจุดที่กำหนด เครื่องจะดูดวัคซีนออกมาจนหมดขวดโดยใช้หัวดูดสุญญากาศใช้หลักการดูดของเหลวโดยมี Air Cushion ทำให้วัคซีนไม่สัมผัสกับหัวดูดโดยตรงแล้วจะเคลื่อนไปแบ่งบรรจุลงเข็มฉีดยาตามจำนวนที่กำหนด คือ 0.5 มิลลิลิตรเท่ากันทั้ง 12 หลอด

จุฬา ชวนเช็คสุขภาพปอดของตนเอง ด้วยแอปพลิเคชัน “LUNG CARE”

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการเปิดตัวแอปพลิเคชันวัดคุณภาพของปอด – LUNG CARE ที่จะสามารถวัดประสิทธิภาพการทำงานของปอดได้ผ่านการเป่าไมโครโฟน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ พัฒนาแอปพลิเคชันวัดคุณภาพของปอด “Lung Care” สามารถวัดประสิทธิภาพการทำงานของปอดด้วยการเป่าลมผ่านสมอลล์ทอล์คหรือช่องไมโครโฟนของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน สามารถใช้ได้กับคนปกติหรือผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับปอด เพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้นถึงการทำงานของปอด และตรวจติดตามปอดว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร

รศ.ดร.ภัทรสินี ภัทรโกศล ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งคิดค้นแอปพลิเคชัน  เปิดเผยถึงแอปพลิเคชันดังกล่าวว่า ลักษณะการทำงานเป็นการนำเข้าคลื่นเสียงและแปลงคลื่นเสียงให้เป็นค่าของปอด โดยนำไปเทียบกับค่ามาตรฐานทางการแพทย์ที่ได้จาก รศ.นพ.กมล แก้วกิติณรงค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอดและระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

 รศ.ดร.ภัทรสินี เผยถึงจุดเริ่มต้นของแอปพลิเคชันนี้ว่า “ที่มาของแอปพลิเคชันนี้มาจากตัวเองเป็นโรคหอบหืด ทุกครั้งที่ไปพบแพทย์จะต้องมีการเป่าเครื่องตรวจสมรรถภาพปอด (Peak Flow Meter) แต่ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ส่วนกระบอกกระดาษที่เป็นอุปกรณ์ในการเป่าซึ่งใช้แล้วทิ้งทำให้สิ้นเปลือง ถ้ามีอุปกรณ์ที่ใช้งานได้เหมือนเครื่อง Peak Flow Meter สามารถพกติดตัวไปได้ตลอดเวลาน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี” 

สำหรับขั้นตอนการทำแอปพลิเคชัน เริ่มจากการเขียนโปรแกรมทดลอง จนได้เป็นสมการที่มีการแปลงคลื่นเสียงออกมาเป็นสเกลเทียบเท่ากับตัวลมที่เป่าด้วยเครื่อง Peak Flow Meter โดยนำแนวคิดทางคอมพิวเตอร์และทางสถิติมาใช้ด้วย จากนั้นได้ทำการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 37 คน พบว่ามีความแม่นยำถึง 97.6% ถือว่าน่าพอใจมาก

ในการทดสอบคุณภาพปอดจะเทียบกับค่ามาตรฐานตามเพศ อายุ และส่วนสูง เมื่อมีการเก็บข้อมูลระยะหนึ่ง หากมีการเปลี่ยนแปลงค่าความจุปอดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แอปพลิเคชันจะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไป

รศ.ดร.ภัทรสินี ได้กล่าวว่า “คนที่สูบบุหรี่จัด ทำงานก่อสร้าง โรงงานปูน หรือผู้ที่ทำงานกับฝุ่น ควรมีแอปตัวนี้ไว้คอยตรวจสอบปอด เพราะจะเป็นตัวบอกว่าปอดของคุณมีสถานะเป็นอย่างไร” 

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป